โรคไขมันพอกตับ (Fatty liver disease) เป็นโรคที่เกิดจากการสะสมไขมันในตับมากเกินกว่าปกติ ซึ่งไขมันที่สะสมส่วนมากมักจะเป็นชนิดไตรกลีเซอไรด์
โรคนี้อันตรายอย่างไร?
ตับนั้นมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันทำหน้าที่ในการจัดการสารอาหาร ยา รวมถึงกำจัดสารพิษในร่างกาย เรียกได้ว่าสารแทบทุกชนิดที่เข้าสู่ร่างกายต้องผ่านการคัดกรองจากตับทั้งสิ้น
การมีไขมันเกาะที่ตับมากเกินไปจะก่อให้เกิดการอักเสบขึ้น ซึ่งส่งผลให้เซลล์ตับเกิดความเสียหาย หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานจะทำให้เซลล์ตับถูกทำลาย จนกระทั่งเกิดเป็นแผลเป็นที่ยากต่อการรักษา หรืออาจถึงขั้นเกิดภาวะตับล้มเหลวได้เลย
ปัญหาคือ ตับนั้นเก่งเกินไป!
ความอันตรายของโรคนี้มาจากการที่ตับนั้นเป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้เมื่อได้รับความเสียหายที่ไม่มากและไม่เรื้อรังเป็นเวลานาน
ขอย้ำว่า! ความเสียหายต้องไม่มาก และไม่นาน
ดังนั้น ในระยะแรกเริ่ม โรคนี้มักไม่แสดงอาการผิดปกติที่ชัดเจน เป็นเพราะว่าตับยังสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ทัน แต่หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่าตับของคุณอาการน่าเป็นห่วงเสียแล้ว
ประเภทของโรคไขมันพอกตับ
โรคไขมันพอกตับสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. โรคไขมันพอกตับที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ (Alcoholic fatty liver disease)
สาเหตุก็ตรงตามชื่อเลยครับ “แอล-กอ-ฮอล์”
การดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปในระยะแรกจะทำให้เกิดการสะสมของไขมันที่ตับ แต่หากยังดื่มต่อไปเป็นระยะเวลานาน โรคนี้จะพัฒนาความรุนแรงขึ้นจนนำไปสู่โรคตับแข็ง (Cirrhosis) และมะเร็งตับได้
2. โรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ (Non-alcoholic fatty liver disease)
สำหรับสาเหตุที่แท้จริงของประเภทนี้อาจไม่ได้ชัดเจนเหมือนกับประเภทแรก แต่คาดว่าน่าจะมาจากปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้
- น้ำหนักตัวที่มากเกินไป
- ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
- ภาวะดื้ออินซูลิน
- ภาวะไขมันในเลือดสูง โดยเฉพาะไตรกลีเซอไรด์
วิธีการป้องกันและรักษา
ดังที่กล่าวไปว่า ตับนั้นสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ หากความเสีบหายนั้นยังไม่รุนแรง ดังนั้น ความสำคัญจึงอยู่ที่เวลา
“ยิ่งตรวจพบได้ไว ก็ยิ่งรักษาได้ง่าย”
ถึงแม้ปัจจุบันจะยังไม่มียาตัวใดที่ถูกบ่งชี้ว่าเป็นยารักษาโรคไขมันพอกตับโดยเฉพาะ แต่ถ้าเรารู้สาเหตุของโรคนี้ว่ามาจากอะไร การทำในสิ่งตรงข้ามย่อมเป็นการป้องกันหรือรักษา
ถ้าย้อนกลับไปดูที่สาเหตุของโรคนี้ จะพบว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนั้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเริ่มจาก
- รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (ถ้าไม่รู้ว่าเท่าไหร่คือปกติ ลองอ่านบทความนี้)
- จำกัดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์
- ลดอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันอิ่มตัวสูง
- ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์
การทำพฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันหรือรักษาโรคไขมันพอกตับเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันโรคอื่น ๆ ได้อีกหลายสิบโรคเลยทีเดียว
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ลองมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นของขวัญให้กับร่างกายสักหน่อยก็คงดีไม่ใช่น้อยเลย จริงมั้ยครับ?
ผลิตภัณฑ์ของเรา
สามารถสั่งซื้อได้ที่
🔵Facebook: https://m.me/PalatyneHealthySweetener
📱LINE@: https://lin.ee/iADtNKV
📞เบอร์โทรศัพท์: 086-369-5555
👉🏻ร้านค้า Lemon Farm ทุกสาขา
👉🏻ร้านค้า Golden Place สาขาพระราม 9, สีลม, หัวหิน1, สะพานสูง, ศิริราช2, ม.เกษตร, ถนนสุโขทัย, ชวนชม, ฉะเชิงเทรา
คุณอ่านบทความนี้หรือยัง?
- สารให้ความหวานต่างจากน้ำตาลอย่างไร
- Palatyne smart cabohydate for sport drink
- สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดภาวะน้ำตาลตก
- Fast Foot ทำร้ายผู้ป่วยเบาหวานมากกว่าที่คิด
- 7 ของว่างสุดปัง เปลี่ยนจากร่างพังเป็นร่างผอม