9 อาหารที่ผู้ป่วยเบาหวานไม่ควรทาน

ในบทความที่แล้วเราได้แนะนำ 9 อาหารที่ผู้ป่วยเบาหวานควรทาน ไปแล้ว คราวนี้ถึงคิวของ “9 อาหารที่ผู้ป่วยเบาหวานไม่ควรทาน” กันบ้าง เพราะการทานอาหารเหล่านี้จะทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณพุ่งทะลุเพดาน และอาจก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย จะมีอาหารอะไรบ้าง ไปดูกันเลย 

1. แป้งขัดขาว

ข้าวขาว ขนมปัง เส้นพาสต้า แป้งเหล่านี้ถูกขัดสีจนสูญเสียใยอาหารและวิตามินที่อยู่ตรงบริเวณเปลือกไปจนหมด เมื่อไม่มีใยอาหารที่คอยช่วยชลอการดูดซึมน้ำตาลเหลืออยู่อีกแล้ว เท่ากับว่าการกินแป้งขัดขาวจะทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณจะพุ่งเป็นจรวดภายในเวลาอันรวดเร็ว

2. เฟรนช์ฟรายส์

หากแป้งขัดขาวเป็นสิ่งที่ไม่ดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวานแล้ว แป้งขัดขาวที่ผ่านการทอดคงเป็นอะไรที่แย่ยิ่งกว่า และเราเรียกมันว่า

“เฟรนช์ฟรายส์”

เฟรนช์ฟรายส์เป็นมันฝรั่งที่ผ่านการแปรรูป จนแทบไม่เหลือใยอาหาร มิหนำซ้ำ น้ำมันที่ใช้ทอดก็มักจะเป็นน้ำมันปาล์ม ซึ่งมีไขมันอิ่มตัวสูงมาก การทานเฟรนช์ฟรายส์จึงไม่เป็นเพียงแค่การเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย

3. ชานมไข่มุก

ชาถือเป็นเครื่องดื่มที่ดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แต่ไม่ใช่กับชานมไข่มุก 

ชานมไข่มุกหวานปกติ 1 แก้ว มีน้ำตาลสูงถึง 40 กรัม ซึ่งน้ำตาลเหล่านี้ก็พร้อมที่จะเข้าไปโลดแล่นในร่างกาย และทำให้ระดับน้ำตาลของคุณสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 

4. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

หากคุณเป็นคนที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน หรือเป็นเบาหวานแล้ว คุณควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปเลยจะดีกว่า เพราะถึงแม้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีน้ำตาลอยู่เล็กน้อย แต่คุณก็อาจจะเผลอทานน้ำตาลปริมาณมากจากมิกเซอร์อย่างน้ำอัดลมก็เป็นได้

และที่สำคัญ การดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยเบาหวานมาก เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายหลั่งอินซูลินมากกว่าปกติ จนอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และนำไปสู่ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือภาวะหัวใจขาดเลือด ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต

5. เครื่องดื่มชูกำลัง

น้ำตาลและคาเฟอีนคือ เคล็ดลับความสดชื่นของเครื่องดื่มชูกำลัง จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเครื่องดื่มชูกำลังถึงเข้ามามีชื่ออยู่ในรายการที่ผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยง

หากคุณต้องการความสดชื่นระหว่างวัน ขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนไปทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวแทน เช่น ฝรั่ง สับปะรด หรือสตรอว์เบอร์รี่ จะดีกว่า เพราะผลไม้เหล่านี้มีวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระเป็นของแถมด้วย

6. อาหารหมักดอง

อาหารเหล่านี้มักมีการเติมน้ำตาลหรือเกลือเพื่อถนอมอาหาร ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อผู้ป่วยเบาหวานอย่างแน่นอน แถมยังอาจมีการใส่วัตถุกันเสียหรือสารอื่น ๆ ที่ช่วยปรับสีหรือรสสัมผัสของอาหาร ซึ่งสารบางชนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคมะเร็งลำไส้อีกต่างหาก

7. น้ำผลไม้

คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมน้ำผลไม้ถึงกลายเป็นอาหารที่ไม่ควรทาน เพราะฟังจากชื่อก็น่าจะเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพไม่ใช่หรอ? 

ถ้าอย่างนั้นมาลองมองอีกมุมกันบ้าง

น้ำผลไม้คือการนำผลไม้ชนิดต่าง ๆ มาคั้นเอาแต่น้ำเพียงอย่างเดียว ดังนั้น สารอาหารที่เหลืออยู่ส่วนมากจะเป็นน้ำตาล โอเค อาจมีวิตามินอยู่บ้าง แต่ก็มีใยอาหารเหลืออยู่น้อยมาก

ลองคิดกันต่อว่าคุณจะต้องใช้ส้มจำนวนกี่ลูกถึงจะได้น้ำส้มคั้น 1 แก้ว?

สมมติว่าคุณต้องใช้ส้ม 10 ลูก นั่นเท่ากับว่าคุณจะได้รับน้ำตาลจากส้มปริมาณถึง 10 ลูก ในทางกลับกันถ้าคุณทานส้มทั้งลูกแทน คุณน่าจะอิ่มตั้งแต่ลูกที่ 3 แล้ว ดังนั้น หากคุณต้องการสารอาหารจากผลไม้อย่างครบถ้วน และหลีกเลี่ยงการทานน้ำตาลที่มากเกินไป การทานผลไม้สดทั้งลูกจะเป็นการตอบโจทย์มากกว่า

8. เนื้อสัตว์แปรรูป

เนื้อสัตว์เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี แต่การนำไปแปรรูปนั้นจะทำให้คุณค่าทางอาหารลดลงได้ เป็นเพราะการแปรรูปเนื้อสัตว์มักมีการเติมสารเคมีเพื่อใช้ในการถนอมอาหาร ซึ่งการทานสารเหล่านี้บ่อย ๆ จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งและโรคหัวใจ

นอกจากนี้ เนื้อสัตว์แปรรูป อย่างเช่น ไส้กรอก แฮม ไส้กรอกอีสาน มักมีไขมันอิ่มตัวที่สูงมาก แถมยังมีการใส่เกลือลงไปเยอะ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

9. น้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าว

โดยทั่วไป น้ำมันพืชจะมีไขมันไม่อิ่มตัว (ไขมันดี) มากกว่าน้ำมันจากสัตว์ แต่ขอยกเว้นน้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าว เพราะน้ำมันทั้ง 2 ชนิดนี้ มีไขมันอิ่มตัวสูงมาก และมีโอกาสที่จะไปอุดตันตามเส้นเลือด ซึ่งหากเกิดขึ้นที่เส้นเลือดสมองหรือหัวใจ อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้เลย

ถ้าเป็นไปได้ อยากให้คุณลองเปลี่ยนไปทานน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันคาโนลา น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันรำข้าวแทน เพราะน้ำมันเหล่านี้มีไขมันไม่อิ่มตัวและไขมันจำเป็นอยู่จำนวนมาก

ถ้าเป็นไปได้ คุณควรเลือกที่จะหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณการทานอาหารเหล่านี้ลง และหันไปเลือกทานอาหารที่เราแนะนำแทน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด